หนึ่งปีผ่านไป ไยเหมือนเดิม

สงกรานต์อีกปี ไม่ได้ไปไหนเลย อยู่เหย้าเฝ้าจอ ทำงานจนหลังขดเป็นยากันยุง
เดินทางจากบ้านไปปากซอย เดินตลาดร้างคน นั่นล่ะไกลสุด ทักทายหนูท่อตัวโตที่กำลังลากเศษปีกไก่ลงรู
ม็อบเสื้อแดงที่ชุมนุมและป่วนกรุงเทพโดนทหารสลาย แกนนำโดนจับ
ผลที่เหลือคือซากรถประจำทางนับสิบๆ คัน และได้วันหยุดราชการเพิ่มอีกสองวัน
อยู่บ้านจนจะหมอกจะหงอยอยู่แล้ว

สงกรานต์ไปไหน?

เราได้รับคำถามทำนองนี้บ่อยๆ ในช่วงเวลาใกล้เทศกาลสงกรานต์
และสงกรานต์แทบทุกปีเราก็จะอยู่บ้าน ยกเว้นบางปีที่เพื่อนชวนออกไปกินเหล้าแถบถนนพระอาทิตย์ ที่จริงก้ไม่อยากออกไปหรอก เพราะคนเยอะและเบื่ออากัปกิริยาสนุกสนานของผู้คน
แต่เพื่อกินเหล้า ขอออกไปหน่อยเถอะ

ปีนี้ตั้งใจว่าจะไม่ไปไหนล่ะ เพราะงานล้นมือล้นตีนเหลือเกิน

เช้ามืด อากาศดีจริงๆ

เมื่อคืนนอนแต่หัวค่ำ คงเป็นเพราะอากาศไข้รุมๆ
ก่อนนอนก็หยอดพาราเซตามอลไป 2 เม็ด
หลับสบาย ตื่นตอนตีสี่ (ไม่รู้ตื่นทำไม)
อากาศดีชิบ
เงียบด้วย เงียบสนิทจริงๆ
มีเสียงเครื่องคอมพิวเตอร์เดินหึ่งๆ

หอกหัก จะบล็อคไปถึงไหนวะ

ช่วงเดือนที่ผ่านมา เข้า blogspot ไม่ได้เลย
ไม่รู้ว่าสาเหตุเกิดจากอะไร แต่ก็พอจะเดาได้ว่ามีการบล็อคจาก ISP ซึ่งที่เราใช้ก็คือ TOT (ก็เพื่อนที่ใช้ True มันเข้าได้)
ขอประณามว่าเวรสัตว์

censorship no. 1

ต้องห้ามหมายเลข 1

ชวนเพื่อนทำกับข้าว

ว่าง ว่างจนไม่รู้จะทำอไร ทำตัวเป็นสุญญากาศ ดีไหม อย่าเลย ทำมาเยอะแล้ว
วันนี้จะพาไปทำแกงอ่อมเนื้อ
เพื่อนคนไหนชอบเข้าครัว ก็จำสูตรไปทำกันได้
อันว่าแกงอ่อมนั้นเป็นอาหารประจำภูมิภาค ทางเหนือก็มี ทางอีสานก็มี แต่การปรุงและเครื่องปรุงก็จะต่างกันสักเล็กน้อย ส่วนที่จะทำวันนี้เป็นแกงอ่อมอีสาน คิดว่างั้นนะ
เอาล่ะมาดูที่เครื่องปรุงกันดีกว่า
1 ตะไคร้ 2 ต้น ใบไม่ต้อง เก็บไว้รูดปลาไหลโน่น เอามาซอยถี่ๆ ยิกๆ
2 หัวข่าหั่นสี่ห้าแว่น สายตาสั้นก็ตัดแว่นหนาหน่อย
3 หัวหอมแกะเปลือกสามสี่หัว หั่นหยาบๆไว้ก็ได้
4 กะเทียมแกะกลีบ สักประมาณเท่าหัวหอม
5 พริกอุจจาระหนู ชอบเผ็ดอยากแสบตูดก็ใส่เยอะๆ ถ้าพอประมาณก็ 8-9 เม็ด

เอาทั้งหมด 1-5 มาตำให้แหลกราญกันไปข้าง ที่ให้ซอยตะไคร้ถี่ๆ ยิกๆ ก็จะได้ตำง่ายไง ขี้เกียจตำก็ตำไม่ต้องแหลกเท่าไหร่ก็ได้ ตำแรงมากๆ สงสารครก เสร็จแล้วตักใส่ถ้วยไว้

6 เนื้อวัวหรือเนื้อควายแล้วแต่จะหาซื้อได้ เนื้อไก่ก็ได้ แต่ที่กูจะทำเนี่ย เป็นเนื้อวัว ซื้อจากแม่ค้าสาวมุสลิมร่างระหงนมโต กะเอาว่าจะกินกันเยอะมั้ย กิน 2 คน ก็เอาสักสามสี่ขีดก็พอ หั่นชิ้นเล็กๆ

เอากะทะตั้งไฟใส่น้ำมันพืชตรามรกต มณีฉาย ใส่นิดหน่อยเพราะจะใช้ผัด เมื่อน้ำมันเริ่มร้อนเร่า ดิ้นเดือดพราดๆ ก็เอาเนื้อที่หั่นไว้ใส่ลงไป ผัดรวมกับเครื่องปรุงที่ตำไว้ก่อนหน้านี้ ผัดพอสุกไม่ต้องสุกมาก

เมื่อยมือว่ะ ขออนุญาตไปเปิดเบียร์ดื่มก่อนนะฟ้อย ...เดี๋ยวมีต่อ

เอาล่ะ ทำต่อ
ตั้งหม้อต้มน้ำ พอเดือดใส่ไอ้ที่ผัดไว้น่ะลงไป คอยคนอย่าให้มันเป็นฟองมากนัก เหมือนเบียร์นั่นแหละ เป็นฟองมากก็ไม่อร่อย

7 น้ำปลา 1-2 ทัพพี
เหยาะน้ำปลา ชิมพอให้เหมาะสมกับลิ้นของแต่ละคน แต่กับแกงอ่อมขอบอกว่ามันจะเน้นรสชาติเค็มนำ เผ็ดร้อนตาม ต้มไปเรื่อยๆ

8 ข้าวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะพูน ทำหกก็เช็ดซะ

ใส่ข้าวคั่วลงไป

9 ปลาร้าปลากระดี่ 1 ตัว น้ำเหยาะแหยะ (เป็นออพชั่นเสริม แต่ควรจะใส่ ไม่งั้นไม่ใช่แกงอ่อมอีสาน)

ต้มจนคิดว่าเนื้อสุกดีแล้ว
ทีนี้ก็มาถึงช่วงสำคัญ คือบรรดาผักต่างๆ ที่จะใส่ลงไป มีดังนี้
10 ผักชีลาว หั่นท่อนๆ หรือเด็ดก้านเอาก็ได้ must be ต้องใส่ ไม่งั้นมันจะไม่ส่งกลิ่นเฉพาะตัวของแกงอ่อม
11 ผักแขยง
12 ผักอีตู่
13 ชะอม
14 มะเขือเปราะหั่นสี่ส่วน 4-5 ลูก
15 ใบแมงลัก
16 ผักชีฝรั่ง ซอยพอประมาณ
17 ฟักทองหั่น ถ้ามีก็ใส่ ไม่มีก็ไม่ต้องก็ได้

ใส่ 14 มะเขือ และ 17 ฟักทองลงไปก่อน เพราะมันสุกช้ากว่าผักอื่น
จากนั้น เมื่อเห็ฯว่าฟักทองและมะเขือสุกแล้ว เอาผักทั้งหมดที่ร่ายยาวมา ใส่ลงในหม้อ และควรปิดเตาทันที ไม่เช่นนั้นผักมันโดนต้มนานจะไม่สด

ตักกินได้โลด เพื่อนฝูงทำกันเองนะ
ส่วนกู วันนี้จะแดกเผื่อก็แล้วกัน

sitting bull

เดินเข้าไปในซอยสุขุมวิท 41 ราวๆ 50 เมตร จะพบร้านเหล้าเล็กๆ เจ้าของเป็นชายหนุ่มผมยาวอัธยาศัยดี ในร้านมีโต๊ะตั้งเพียงสี่ห้าตัว ที่น่าแปลกคือร้านเหล้าแห่งนี้ไม่ขายเหล้า หากต้องการดื่มต้องซื้อมาเอง ซึ่งสถานที่ซื้อก็คือร้านท็อปส์ตรงปากซอยนั่นเอง

ปกติร้านเหล้าจะเปิดเพียงวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์เท่านั้น จึงมีลูกค้าหลายคนเรียกร้านนี้ว่าร้านศุกร์เสาร์อาทิตย์ หากแต่จริงๆแล้วร้านเหล้านี้ชื่อว่า sitting bull ซึ่งชายหนุ่มเจ้าของร้านบอกว่านำมาจากชื่อของหัวหน้าอินเดียนแดงเผ่าซูที่เขาชื่นชอบ.